วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

(Food Trend) อาหารบวกแฟชั่น "แต่งตัว"จานเด็ด ...ให้อินเทรนด์

(Food Trend) อาหารบวกแฟชั่น "แต่งตัว"จานเด็ด ...ให้อินเทรนด์
8 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 05:54:00
"ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง"...อาหารก็เช่นกัน จะ (ยิ่ง) เพิ่ม "อรรถรส" และ "เพิ่มมูลค่า" ต้องรู้จักตกแต่ง "จานเด็ด" อย่างมีสไตล์ ทั้งสวย "ชวนมอง" และน่า "ลิ้มรส"
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ :  แนวโน้มของคนรุ่นใหม่ คุณค่าของ "อาหารการกิน" ไม่ใช่แค่ "กินอร่อย" หรือ "อิ่มท้อง" แต่ยังเป็นเรื่องของ "ความสุนทรีย์" บวก "ความอิ่มเอมทางใจ"
  ปัจจุบัน อาหารจึงเป็นส่วนหนึ่งของ "แฟชั่น" และเทรนด์นี้กำลังเริ่มแพร่หลายเข้ามาในเมืองไทย...
   จะ "แต่งตัว" จานเด็ดอย่างไร ? ให้อินเทรนด์ สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ เจ้าของเวบไซต์ www.karbstyle.com และ "ขาบสตูดิโอ" (Kitchen&Food Concept) บอกว่า อาหารก็คือ "แฟชั่น" อย่างหนึ่ง เปรียบเหมือน "เสื้อผ้า" ทำไมคนอ้วนควรแต่งตัวแบบหนึ่ง คนผอมควรแต่งตัวอีกแบบหนึ่ง
   อาหารเองก็เช่นกัน...สุทธิพงษ์อธิบายว่า การจะตกแต่ง "อาหาร" ให้สวยงาม โดดเด่น ต้องคำนึงถึง "ตัววัตถุดิบ" หรือ "ตัวอาหาร" เป็นตัวตั้งต้นอย่างแรก แล้วค่อยลิงค์ปรับไปกับคอนเซปต์ หรือเทรนด์ของแฟชั่นมาประยุกต์
  เพราะ "อาหารบวกแฟชั่น" มีข้อจำกัดในตัวหลายอย่าง ทั้ง "ต้องกินได้" และมีสีของวัตถุดิบเป็นโจทย์บังคับในตัว
   พร้อมยกตัวอย่าง การปรับเอาแฟชั่นมาใช้กับการตกแต่งอาหาร เช่น ปีที่แล้วเทรนด์สีส้มมาแรง จะเห็นว่ามีการนำเอาสีส้มมาดีไซน์กับข้าวของแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หรือแม้แต่หัวหนังสือ
  อาหารก็เช่นกัน ถ้าไม่อยากให้ตกเทรนด์แฟชั่น อาจใช้วิธีเลือก "พร็อพ" ในการตกแต่งเข้ามาช่วย เช่น ใช้ผ้าปูโต๊ะลินินสีส้ม และองค์ประกอบสีที่เข้ากันได้กับสีส้มแบบเป็นอมตะเลย ก็เช่น สีขาวกับดำ เป็นต้น 
  ส่วนภาชนะหรือถ้วยชามในการใส่อาหาร แนะนำว่าควรเป็นสีขาว ซึ่งถือเป็นสีที่เบสิคที่สุด เพราะเมื่อใส่อาหารแล้วจะไม่บดบังรัศมีอาหารให้ดูด้อยลงไป และจะทำให้อาหารนั้นๆ แสดงพลังในตัวออกมาอย่างเต็มที่
  "ปีนี้เท่าที่สังเกต สำหรับอาหารแล้ว เทรนด์สีส้มก็ยังมาแรงอยู่ ค่อนข้างจะเป็น "สีอมตะ" สำหรับอาหาร" สุทธิพงษ์บอก
  นอกจากเทรนด์ในเรื่องของ "สี" แล้ว สุทธิพงษ์ยังให้ความเห็นว่า อีกเทรนด์หนึ่งที่ยังคงมาแรงในธุรกิจอาหาร นั่นคือ กระแสอาหารเพื่อสุขภาพ เช่น พืชผัก สมุนไพร และเครื่องเทศ รวมถึงเทรนด์การกินอยู่อย่างเรียบง่าย
   "ตัววัตถุดิบ ก็ต้องเป็นอะไรที่สะท้อนบุคลิกเรียบง่าย ไม่ยุ่งยาก ส่วนตัวอาหารสุขภาพ ถ้าจะเอาคอนเซปต์แฟชั่นมาปรับใช้ โดยดูในเรื่องของสี แน่นอนว่า โทนสีเขียว จะเป็นโทนสีที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ เราอาจผสมผสานในเรื่องแฟชั่น ผ่านการเลือกพร็อพในการตกแต่ง เลือกสีเข้ามาใช้ และเอาความเป็นวัฒนธรรมเชื้อชาติเข้ามาผสมผสาน..." 
    "ถึงแม้จะอิงแฟชั่น หรือกระแส แต่คุณก็ควรจะต้องเติมรากเหง้าของวัฒนธรรมเข้าไปในอาหารด้วย เช่น อาหารญี่ปุ่น จะมีความนิ่งสงบแบบเซน ตรงนี้ก็อาจใช้สีเอิร์ธโทนเข้ามาปรับใช้"
   กระแสของ "สีส้ม" และ "อาหารสุขภาพ" เป็นสองเทรนด์ใหญ่ๆ ที่สุทธิพงษ์มองว่าจะยังคงมีอิทธิพลมาแรงในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ความตื่นตัวในเรื่องแฟชั่นบวกอาหาร ในเมืองไทยตอนนี้ยังอยู่ใน "วงจำกัด" เฉพาะบางกลุ่ม อย่างเช่นตามร้านอาหารใหญ่ๆ 
  การกำหนดคอนเซปต์ หรือธีมในการนำเสนอแฟชั่นในอาหารสำหรับเมืองไทย อาจจะยังไม่เห็นชัดเท่ากับเมืองนอก โดยเฉพาะโลกตะวันตก ที่จะมีคอนเซปต์แฟชั่นการตกแต่งอาหารแบ่งตามฤดูกาลที่ปีหนึ่งๆ จะมี 4 ฤดู ซึ่งแต่ละฤดูจะมีวัตถุดิบที่มีรูปทรงและสีสันที่แตกต่างกัน พวกนี้ก็คือแฟชั่นในอาหารอย่างหนึ่ง
  "สำหรับคนที่ทำธุรกิจร้านอาหาร คอนเซปต์ควรต้องมาจากเจ้าของร้านก่อนว่า จะขายลูกค้ากลุ่มไหน ถ้าขายอาหารสุขภาพ ก็อาจต้องเน้นคอนเซปต์สีเขียว แต่ถ้าในรอบปี ในช่วงเทศกาลพิเศษ เช่น สงกรานต์ คริสต์มาส ก็สามารถเอาสีอื่นเข้ามาช่วยตกแต่งให้ดูสดใสขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ เพื่อสร้างสีสันไม่ให้ดูนิ่งเกินไป"
  ฟู้ดสไตลิสต์รายนี้ยังให้คำแนะนำสำหรับ "มือใหม่" ที่สนใจในเรื่องการตกแต่งอาหาร และการนำแฟชั่นมาประยุกต์ใช้ในอาหาร สามารถเริ่มต้นได้ง่ายๆ แบบใกล้ตัวที่สุด คือ เดินเข้าร้านหนังสือ โดยหนังสือที่น่าสนใจ 3 เล่มที่เกี่ยวกับไอเดียในการตกแต่งอาหารโดยเฉพาะ ได้แก่หนังสือ Donna Hay, Martha Stewart Living และเล่มสุดท้าย คือ Australian Gourmet Traveller
ทีมข่าวกรุงเทพธุรกิจ BizWeek


Linked : http://www.bangkokbiznews.com/2007/05/08/WW71_7104_news.php?newsid=67309